เว็บพนันออนไลน์ เว็บตรงไม่ผ่านเอเย่นต์ 2022-2023 100 เล่นได้ที่นี่

โปรโมชั่นพิเศษ ฝาก 100 รับ 150

Zutoomo 23-5

ในอีกด้านหนึ่ง ยุยมีสีหน้าแดงแป้ด เธอเข่าทรุดนั่งบนพื้รอเมื่อได้ยิบทสนทนาว่า”ยูมะคุง เธอจะทนุถนอมยุยใช่มั้ย” “ครับผมจะทนุถนอมยุยครับ”

ตอนแรกยุยเข้าใจว่าหูฝาดเข้าใจผิดไปเสียอีก

เธอยิ่งอายกว่าเดิมอีกเมื่อเห็นคุณแม่เห็นตัวเธอเองว่าลอบฟังอยู้ แต่แม่เธอเองยังกล่าวกับคนในห้องรับแขกว่า “ไม่มีใครอยู่”

แม่เธอส่งสัญาณมือเป็นเชิงว่าให้ยุยทำเป็นไม่รู้ไม่ชี้กลัวห้องตัวเองซะ เธอเลยงอนิ้วชี้เข้าหานิ้วโป้งเป็นสัญญาณว่ารับทราบค่ะ

ยุยหีวใจเต้นแรงมากจนได้ยินเสียงหัวใจเต้นดังลั่น รีบเดินกลับห้องอย่างระวังไม่ให้ยูมะรู้ตัว เมื่อปิดประตูห้องเรียบร้อย เธอนั่งกับเตียงพร้อมเสียงหัวใจเต้นแรง

ยุยไม่ได้ยินเสียงพ่อเธอที่บอกว่า จะใช้ทั้งชีวิตทถุถนอมยุยใช่มั้ย  สิ่งที่ยุยได้ยินมีเพียงเสียงยูมะที่ตอบอย่างจริงจังว่าจะทนุถอนอมยุยจากปากยูมะเท่านั้น

ถึงตอนนี้เสียงหัวใจเธอยังคงเต้นโครมครามไม่หยุด

ยุยได้ยินว่ายูมะจะทนุถนอมเธอ ไม่สิ สิ่งที่ทำให้เธอหัวใจเต้นแรงไม่หยุดคือคำพูดนั้น เธอคิดว่าเธอไม่ได้เข้าใจผิด กับคำพูดที่ยูมะบอกว่า “ได้โปรดยกลูกสาวให้ผมด้วยครับ”

ระหว่างกำลังครุ่นคิดกับเรื่องนี้ ยุยได้ยินเสียงเค่าะประตูเล่นเอาสะดุ้งเฮือกกระโดดโผลงขึ้นมา

“ยุย ขอแม่เข้าไปได้มั้ย”

หลังจากแม่ยุยกล่าวจบ ยุยรีบตอบ “ๆอ..อืม เข้าได้เลยค่ะ”

แม่ยุยเปิดประตูเดินเข้ามาในห้อง พอเห็นสีหน้ายุย แม่แค่นหัวเราะห

“ไหวมั้ยลูก หน้าแดงมากเลยนะ”

“เอ่อ..คือว่า”

“ดูจากสีหน้าลูกแสดงว่าได้ยินคำพูดยูมะทุกคำตั้งแต่แรกเลยสินะ”

“….อืม”

ยุยพยักหน้าเล็กน้อยด้วยความอายสุดขีดให้กับแม่ทีเข้ามาคุยกับเธอ

“เอ่อ..คือว่า..แม่คะ”

“ว่างายคะ”

“สิ่งที่หนูได้ยินตะกี้หนูไม่ได้ฟังผิดมันคือเรื่องนั้นใช่มั้ยคะ”

“เรื่องนั้นมันคือเรื่องไหนคะลูก”

“มันคือ…เรื่องที่ว่ายูมะชอบหนู…จริงรึเปล่าคะ”

“ใช่ ถูกต้องแล้วจ้า”

“เอ๋ ทั้งหนูทั้งยูมะต่างคนต่างก็ชอบ…”

“ก้ถูกแล้วไง”

พอเจอบุคคลที่สามกล่าวในเรื่องที่ว่าตัวเองชอบ ยุยรู้สึกอายม้วนต้วน เธอเอามือสัมผัสแก้มตัวเอง รู้สึกได้ว่าแก้ทร้อนราวกับมีไฟอยู่ข้างใน

“หนูควร..ทำไงต่อดีคะคุณแม่…..หนูอายมากจนต่อจากนี้คงไม่กล้าเจอหน้ายูมะคุงแล้วค่ะ”

คุณแม่หรี่ตามองด้วยความอ่อนโยนขณะจ้องมองอากัปกริยาลูกสาวเธอ

นั่นสินะ  งั้นก็กล้ำกลืนความอับอายแล้วเดินหน้าต่อไปสิ”

เอ๋”

”ตอนนี้ต่างคนต่างก็รุ้ถึงความรู้สึกอีกฝ่ายแล้ว หนูก็แค่อ้อนเขาในสิ่งที่ลูกอยากจะทำโดยไม่ต้องไปสนเรื่องอายไง”

“แต่ว่า..ทำแบบนั้นมัน…”

“แม่เข้าใจความรู้สึกของลูก แม่ถึงไม่บังคับนะ แต่แม่เชื่อว่าถ้าหนูทำตามสิ่งที่แม่พูด ยูมะจะดีใจมากๆนะ”

“…งั้นเหรอคะ”

“แน่นอน แม่มั่นใจมากว่าถ้าหนูอ้อนยูมะ ยูมะต้องดีใจมากๆค่ะ”

“….อืม

“ฮะฮะ แม่บอกได้เลยว่าถ้าหนูอ้อนพร้อมกับท่าทีที่หนูแสดงให้แม่เห็น การันตีว่ายูมะดีใจมากแน่  …เดี๋ยวแม่จะกลับห้องรับแขกละ ยุยจะเอาไงต่อคะ”

“ขอหนูไปทำใจให้เย็นกว่านี้ก่อนดีกว่าค่ะ..”

“รับทราบ แม่เอาใจช่วยนะ”

หลังจากแม่ยุยกลับเข้าห้อง เธอกลับไปที่ห้อง ล้มตัวนอนบนเตียง กอดและเอาหน้าซุกหมอนข้างด้วยกริยาน่ารัก สีหน้ายังแดงก่ำ หัวใจยังเต้นระรัวด้วยความอายและความสุขล้นจนดีใจ ต่อจากนี้เธอควรจะทำไงต่อดีนะ

“…ได้กลิ่นยูมะ..จากหมอนข้างด้วยแหละ”

เธอสูดลมหายใจเข้าแรงกว่าเก่าเพื่อดมกลิ่น

เธอเพิ่งนึกได้ว่ายูมะเพิ่งจะนอนด้วยกับเธอบนเตียงตรงนี้

“ชั้นชอบ…กลิ่นนี้จังเลย”

(คนที่นิสัยดีจะมีกลิ่นกายชวนพึงปรารถนา) คำนี้เธอเคยได้ยินมาก่อนแล้วตอนนี้เธอกำลังหลงใหลกับมันเลย

ยุยนึกถึงตอนที่ยูมะเองก็พูดออกมาว่า “ยุยมีกลิ่นหอมดีจัง”

 

ใส่รูป

 

“…แหะๆๆๆ”

ยุยมีความสุขมากๆเมื่อคิดว่าคนที่เธอชอบก็คิดแบบเดียวกับสิ่งที่เธออยู่จนสีหน้าออกการการเก็บไม่มิดเลย

ยุยสูดกลิ่นยูมะจากหมอน หายใจเข้าลึกยิ่งกว่าเดิม ยิ่งสูดเธอยิ่งรู้สึกผ่อนคลายพร้อมด้วยหัวใจเต้นตึกตักจากความสุขล้น ยุยกอดหมอนข้าวราวกับแทนที่หมอนข้างเป็นตัวยูมะเอง

 

“…จากนี้ชั้นควรทำไงต่อดีน้า…”

หลังจากนี้ ยุยจมเจ่าอยู่กับความนึกคิดตัวเองขณะซบหมอนไปด้วย

 

จบ ch22-5

Zutoomo 23-4 ตอนเสริม

“..เดี๋ยวนะ แล้วแม่กับพ่อเธอวันนี้ไม่อยู่เหรอ”

เมื่อยูมะเดินเข้ามาในบ้าน พบว่าในบ้านไม่มีสัญญาณเลยว่ามีคนอาศํยอยู่ตอนนี้เลยถามขึ้นมา

 

“เอ๋?? ทั้งสองคนวันนี้ทำงานกลับมืดนะ…”

“….เอาแล้วไงล่ะมาแนวนี้อีกแล้ววว”

ยูมะยกมือขึ้นตบหน้าผากตัวเอง สายตาไม่กล้ามองหน้ายุย  พร้อมกับนึกถึงคำพูดเนเน่ว่า เวลายูมะอายหรือเขินเมื่อไร จะเลี่ยงการสบตากับคู่สนทนา

 

ยิ่งรู้ตัวว่ากำลังเขินอยู่ตอนนี้ เล่นเอาหัวใจเต้นบีบรัดเลย

ยุยพายูมะเข้าห้อง บอกว่า “เดี๋ยวไปเตรียมเครื่องดื่มมาให้” แล้วเดินลงบันไดไป

ในขณะที่ยุยไปเตรียมขนมกับเครื่องดื่ม ตัวเธอเองก็ใจเต้นตึกตักไม่ต่าง

ก่อนหน้านี้ก็เคยพายูมะเข้าห้อง นอนด้วยกันก็ทำมาแล้ว แต่ว่าครั้งนี้รู้สึกว่ามันแตกต่างไปจากเดิม

 

..คิดว่าเหตุผลคือตอนนี้ ยุยที่รู้ใจแล้วว่าชายที่ตนรักมีใจแบบเดียวกับที่ตนชอบ กำลังรออยู่ที่ห้อง และจะได้อยู่ด้วยกันสองต่อสอง

เรื่องนี้มันมีความหมายยังไงบ้าง เธอเองเพื่งจะนึกออกตะกี้

 

แต่..ไม่ไรอก แน่นอนว่ายูมะไม่ใช่พวกฉวยโอกาส เรื่องนี้เธอเชื่อใจในเขา แต่ว่ามันก็มีโอกาสหนึ่งในหมื่นที่จะเกิดเรื่องอย่างว่าได้ .. ฟีลลิ่งนี้เกาะกุมหัวใจยุยในตอนที่พายูมะเข้าบ้าน…

ยุยใช้สองมือตัวเองตบแก้มเพียะๆ

 

….ในเมื่อตอนนี้เธอรู้แล้วว่ายูมะคิดยังไงกับเธอ เธอก็เริ่มจะเบรคเรื่องทำเกมรุกใส่เขาไม่ไหวแล้ว

เธออยากจะใช้เวลาออดอ้อนยูมะให้มากกว่านี้  ต่อให้เขาจะรู้ตัวแล้วว่าเธอชอบเขาก็ช่างมัน ไม่สิ ยิ่งดีด้วยซ้ำที่ยูมะรู้ตัวว่าเธอคิดยังไงอยู่

ความรู้สึกอยากจะอ้อนเขา มันหยุดไม่อยู่แล้ว ยูมะคือคนที่เธอรัก  เธอดีใจจริงๆ

(..นอกจากนี้ ถ้าเป็นยูมะล่ะก็ ถึงต่อจากนี้เราสองจะเลยเถิดไปบ้างสักนิดก็..)

……

 

“….งื้อ….งื้ออออออออ”

ทันทีที่รู้ตัวว่าเมื่อกี้เธอคิดเรื่อง18+ลงไป เล่นเอาอยากจะเผ่นหนีออกจากบ้านตัวเอง แต่ว่า นี่ก็ใช้เวลาเตรียมของนานละ ถ้าไม่รีบไปหาคงดูไม่ดี เลยรีบลงมือเตรียมขนมกับน้ำผลไม้แล้วเดินกลับเข้ามาในห้อง

 

เมื่อกลับเข้ามา ภาพที่เห็นคือยูมะกำลังกางโน้ตติวหนังสืออย่างตั้งใจอยู่

เห็นภาพแบบนี้เข้าไป ถึงอยากจะจู๋จี๋กับยูมะ แต่ว่าคนที่เอ่ยปากแต่แรกว่า ให้เข้ามาติวหนังสือ คือตัวยุยเอง จะออดอ้อนก็กระไรอยุ่ เธอเลยยกเลิกความตั้งใจที่จะหวานใส่ยูมะ เดินไปนั่งก่อนหยิบหนังสือเรียน

(…ท..ทำไมมันตื่่นเต้นจัง)

 

ในห้องตอนนี้เงียบสงัด มีเพียงแค่เสียงปากกาจดโน้ตแกร่กๆเท่านั้น

 

(..อยุ่ในบ้านกันตามลำพังสองคน นี่ควรถือเป็นโอกาสอันดีสารภาพรักเลยไม่ใช่รึไง)

ยุยคิด  และเตรียมจะเอ่ยปากสารภาพออกไป

 

ณ.ที่แห่งนี้ ถ้าเอ่ยไปว่า “ชั้นชอบเธอ ชั้นอยากให้ยูมะมาเป็นคนรักของชั้น” ยูมะจะกลายเป็นแฟนกับเธอแน่  แค่เธอก้าวขา ทำในสิ่งที่คิดออกไปแค่ก้าวเดียว ความปรารถนาของเธอจะเป็นจริง….. ในหัวเธอคิดแบบนี้ แต่ความจริงคือ

 

“…..ฮือ”

แค่จินจนาการว่าเธอจะสารภาพรักกับยูมะ หน้าเธอก็แดงแป้ดหนัก

การสารภาพรัก มันเป็นการข้ามขั้น เลเวลยิ้่งกว่าตอนทำเกมรุกออดอ้อนใส่เขาคนละเรื่อง มันต้องการความกล้ายิ่งกว่านี้ 

ซึ่งปัญหาคือแค่จินตนาการล้วนๆเธอยังอายม้วนเลย ไม่ไหว มันเขินจัดจนพูดไม่ออก

แล้วถ้าใช้วิธีส่งข้อความล่ะ แว่บหนึ่งเธอคิดแบนี้ แต่ก็ไม่ใช่ เรื่องนี้ถ้าไม่ได้เอ่ยจากปากตัวเอง เธอคิดว่ามันไม่ถูกต้อง

ยุยฮึดหนัก คิดว่าเธอต้องพยายามให้มากกว่านี้ แค่พูดออกไปเอง ..แต่ว่าเสียงก็ไม่ออก คำพูดมันค้างในลำคอ 

“ยุย”

“กรี๊ดดด”

“เอ๊ะ?เอ่อ คือผมเห็นตั้งแต่ตะกี้ว่าปากกาเธอไม่ขยับเลย  มีตรงไหนไม่เข้าใจรึเปล่า”

“เอ๋..อ…อืม..คือตรง…นี้”

“ไหนๆ”

ยูมะพูดจบเขยิบตัวมานั่งข้างยุยไหล่ชนไหล่

ด้วยความที่ยุยคิดแต่เรื่องสารภาพยูมะมาตั้งแต่ตะกี้ เล่นเอาอายหนักที่เขามาใกล้ แต่ว่า ถึงจะอายแต่ก็มีความสุขมากหลายเท่าเพียงแค่ได้สัมผัสกัน

แค่ไหล่ชนไหล่ก็ปลื้มหนักละ เธออยากจะซบเขา อยากจะสัมผัสให้มากกว่านี้

ยุยลอบชำเลืองมองยูมะ พบว่าหน้าของเขาก็แดงแป้ดเลย

(ยูมะเองก็รู้สึกแบบเดียวกับชั้นใช่รึเปล่านะ)

เพียงแค่คิดเท่านี้ หัวใจยุยก็บีบรัดจนเจ็บ แต่เป็นความเจ็บที่ฟีลกู๊ดมาก การติวหนังสือแล้วได้ใกล้ชิดไหล่ชนไหล่ มันดีจริง ถ้าติวหนังสือแล้วเพลินขนาดนี้ก็อยากจะติวต่อเรื่อยๆ

และในตอนนี้ความปรารถนาของเธอคือ เลิกติวหนังสือแล้วไปออดอ้อน กอดยูมะแน่นๆ อยากจะบอกผ่านความรู้สึกตัวเองผ่านอ้อมกอดเธอ 

 

แต่ว่านั่นมันต้องเป็นตอนเราสองคนเป็นคนรักกัน ณ.ตอนนี้ยังทำไม่ได้

 

…หลังจากนั้นทั้งคู่ก็ติวหนังสือเคียงข้างกัน เวลาก็ดำเนินผ่านไปเรื่อยๆ จนพอรู้สึกตัวอีกทีหันไปดูนอกหน้าต่างพบว่า ฟ้ามืดแล้ว

“โอ๊ะ เวลาปาเข้าไปป่านนี้แล้วรึ”

ยูมะวางปากกา

“งั้นเดี๋ยวผมกลับก่อนนะ”

“อืม..”

ยุยวางปากปา ปิดสมุดโน้ตด้วยความรู้สึกเสียดายที่เวลาติวหนังสือสองต่อสองต้องหมดลงเพียงเท่านี้

เธอไม่อยากให้ยูมะกลับบ้าน อยากอยู่ด้วยกันสองต่อสองต่อไป

แต่ยุยก็ไม่สามารถทำได้ เธอเลยพายูมะมาส่งหน้าบ้าน ร่ำลากัน

 

หลังจากยูมะกลับไปแล้ว ยุยทิ้งตัวลงเตียง นอนกลิ้งไปมา หยิบหมอนข้าง เอาหน้าซบลงไป

(ไม่ไหว กะแล้วเชียว ไม่เวิร์กจริงๆด้วย)

เธอตั้งคำถามกับตัวเองว่า สมัยก่อน คิดไปได้ไงว่า การบอกใครสักคนว่า ชอบนะ มันเป็นเรื่องที่ง่าย แค่พูดออกไปสั้นๆก็จบละ

ความรู้สึกชอบที่พลุ่งพล่านอกมา หากสารภาพไป คิดว่าคนที่ได้รับ มันต้องดีใจอยู่แล้ว มีแต่เรื่องดีทั้งนั้น แต่สุดท้าย ผลที่ได้วันนี้ก็คว้าน้ำเหลว เธอพยายามจนสุดความสามารถยันวินาทีสุดท้ายแล้ว แต่มันไม่ไหวจริงๆ

(..เปลี่ยนแผนขอเป็นฝ่ายรอให้ยูมะเป็นคนสารภาพรักเธอแทนคงจะดีกว่ารึเปล่านะ..)

ความรู้สึกอ่อนแอก่อตัวขึ้นในใจยุย

หลังสอบเสร็จ ยูมะชวนเธอเดท บางทีในตอนนั้นเขาอาจจะเป็นฝ่ายสารภาพรักกับเธอก็ได้

ถ้างั้น เพียงแค่รออย่างเดียวคงไม่มีปัญหาหรอก

แทนที่จะพยายามกับสิ่งที่เป็นไปไม่ได้ ขอเป็นฝ่ายรอยูมะสารภาพรักดีกว่า คิดแค่นี้เธอก็รู้สึกสนุกขึ้นมาละ ยิ่งเมื่อนึกถึงคำพูดเพื่อนร่วมชั้นที่บอกว่า “ถ้าถูกเด็กผู้ชายที่ตนชอบเป็นฝ่ายสารภาพรัก นั่นล่ะฝันที่เป็นจริงเลย”  ก็ยิ่งชวนคิดว่า การรอคอย อาจจะเป็นเรื่องดีกว่าก็ได้

 

ยุยเปิดปฏิทินตรวจสอบวันที่พลางคิดถึงว่ายูมะเป็นฝ่ายสารภาพรักตอนเดท…แค่คิดเท่านี้ก็รู้สึกดีขึ้นมาแล้ว

ในขณะที่ความรู้สึกดีๆก่อตัวขึ้น วันเวลาก็เริ่มไหลจนถึงวันสอบเสร็จ

 

***

จบ ch23 ตอนเสริม

4.8/5 - (10 votes)